ในช่วงที่ผมเริ่มสะสมบูชาพระเครื่องและวัตถุมงคลที่เกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้น ผมก็ไม่เคยทราบมาก่อนหรอกนะครับว่ามีพระรุ่นนี้อยู่ด้วย จนเมื่อประมาณสักปี 2553 ผมได้บังเอิญไปเจอโพสต์ของ “คุณธนกิจ” ในอินเตอร์เน็ต พี่เขาโชว์ภาพพระรุ่นนี้พร้อมข้อความสั้นๆ ว่า …
“พระผงพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวง ผสมเส้นพระเจ้า (เกศา) สร้างในโอกาสพระชนมายุครบ 4 รอบ เมื่อปี 2519 ในพระราชพิธีพุทธาภิเศกพระพุทธบุพผาภิมงคล วัดบุปผาราม (วัดสวนดอก) จ.เชียงใหม่ นิมนต์พระคณาจารย์มาในพิธีมากมาย พระองค์นี้พิเศษมองเห็นเส้นพระเจ้า (พระเกศา) ชัดเจน ด้านหลังและด้านข้าง นับได้รวม 4 เส้น ยาวประมาณ 1 เซน สัมผัสได้ครับ”
ผมอ่านแล้วสนใจมาก อยากได้มาบูชาสักองค์ จึงได้เริ่มเสาะหา แต่ก็หายากมากพอสมควร อาจจะเป็นเพราะพระไม่ดังเลยไม่เป็นที่รู้จัก
หรืออาจจะเป็นเพราะผู้คนยังไม่ค่อยนิยม เลยไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการจัดสร้างก็มีน้อยมากๆ ส่วนใหญ่ก็เขียนไว้สั้นๆ แค่ชื่อรุ่นและชื่อวัด ผมพยายามเสาะหาอยู่เกือบ 2 ปี จึงได้พระองค์แรกมาบูชา
หลังจากนั้นก็ได้เพิ่มมาอีกหลายองค์ แบ่งเพื่อนๆ เอาไปบูชากันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเก็บไว้บูชาเอง แม้ว่าตอนนั้นจะยังไม่ทราบรายละเอียดหรือประวัติการจัดสร้างที่จัดเจนก็ตาม
และจากการที่พยายามตามหาพระ ตามหาข้อมูลมานาน ผมก็ได้เจอหนังสือรวมภาพและประวัติการจัดสร้างพระรุ่นนี้ในอินเตอร์เน็ต เป็นหนังสือที่ทางวัดบุพพารามได้รวบรวมข้อมูลและจัดทำกันเอง ตอนนั้นเหมือนว่าที่วัดหนังสือจะหมดแล้ว แต่ผมยังโชคดีที่ตามไปจนเจอพี่ท่านหนึ่งที่เขามีหนังสือเหลืออยู่ ผมเลยขอแบ่งซื้อเขามา 2 เล่ม (ตอนนี้เหลือเล่มเดียว ส่วนอีกเล่มหนึ่งแบ่งให้เพื่อนไปแล้ว)
หลังจากได้ข้อมูลชัดเจนแล้ว ผมเลยตามเก็บพระรุ่นนี้เพิ่ม เพราะพิธีดีมาก เจตนาในการจัดสร้างก็ดีและชัดเจน พระในพิธีนี้มีหลายรูปแบบ ผมเลือกเก็บในแบบที่ชอบไว้หลายพิมพ์ แต่ที่ชอบมากที่สุด เก็บเยอะสุดก็พระผงในหลวงนี่แหละครับ
พระผงพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 9 พระชนมายุครบ 4 รอบ พ.ศ. 2519 วัดบุพพาราม (วัดสวนดอก) จ.เชียงใหม่
จัดสร้างขึ้นในวโรกาสในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเททอง ทรงจุดเทียนชัยพุทธาภิเษก ทรงพระสุหร่าย ในพิธีพระพุทธบุพพาภิมงคล ที่จัดสร้างขึ้นในวโรกาสในหลวงรัชกาลที่ 9 จะมีพระชนมายุย่าง 49 พรรษา โดยการจัดสร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี ส่งเสริมพระบารมีให้สูงยิ่งขึ้น อันที่จะเป็นหลักชัยของประเทศชาติ และบวรพุทธศาสนา
รายชื่อพระคณาจารย์ที่มาร่วมพิธีพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก 49 องค์
- สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธฯ (สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 18)
- สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ (สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19)
- สมเด็จพระธีรญาณ วัดจักรวรรดิ์ฯ
- พระวิสุทธิวงศาจารย์ วัดสุทัศน์ฯ
- พระวิสุทธาธิบดี วัดไตรมิตร
- พระธรรมวโรดม วัดประทุมคงคา
- พระพุทธวงศ์มุนี วัดเบญจมบพิตร
- พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญชัย
- พระเทพวิสุทธิโสภณ วัดเชียงราย
- พระเทพวิสุทธิ์ วัดเจดีหลวง
- ครูบาคำแสน อินฺทจกฺโก วัดสวนดอก (บุปผาราม)
- ครูบาคำแสนเล็ก คุณาลงฺกาโล วัดดอนมูล
- ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง
- ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
- หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง
- พระอาจารย์หนู วัดแม่ปั่ง
- ครูบาอินถา วัดเชียงมั่น
- ครูบาจันทร์แก้ว วัดดอกเอื้อง
- พระครูสิงหวิชัย วัดฟ้าฮ่าม
- ครูบาบุญมี (พระครูธรรมธร) วัดท่าส๋อย
- ครูบาคำบัน (พระครูมงคลคุณาทร) วัดหม้อคำดวง
- ครูบาปั๋น วัดกู่คำ
- ครูบาแก้ว วัดวิเวกวนาราม
- ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง แม่แตง
- ครูบาจินา วัดท่าข้าม
- ครูบาคำตัน วัดดอนจืน สารภี
- พระอาจารย์ทองบัว วัดโรงธรรม
- ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดทุ่งจำปี
- พระประสาท สุตาคม วัดจามเทวี
- พระราชสุมนต์มุนี วัดราชบพิธ
- ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย
- พระญาณวีราคม วัดดอนเจดีย์
- ครูบาเมือง วัดท่าแหน
- ครูบาคำแสน วัดท่าแหน
- พระอินทวิชยาจารย์ วัดคะตึก
- ครูบาอินโต วัดบุญยืน
- หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
- ครูบาหล้า วัดดอยคู่ค้าง
- พระราชรัตนมุนี วัดพระบาทมิ่งเมือง
- พระชยานันทมุนี วัดพญาภู
- พระญาณมงคล วัดมหาวัน
- หลวงพ่อแพ วัดพิกุทอง
- หลวงพ่อนอ วัดกลาง
- หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน
- หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
- หลวงพ่อถีร วัดป่าเรไลย์
- พระอาจารย์ มหาวีระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
- พระอาจารย์ฝั้น อาจา วัดป่าอุดมพร
- พระอาจารย์สำราญ วัดเขาตะเครา
วัดบุพพาราม เดิมชื่อวัดอุปปาสันติ พระเจ้าติโลกราช แห่งราชวงค์มังรายมหาราช นพบุรีศรีนครพิงค์ “พระพุทธบุพพาภิมงคล” ซึ่งมีความหมายว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญยิ่งคือ “เป็นมงคลในบุรพาทิศ” และประดิษฐานไว้ทางทิศตะวันออกของนครเชียงใหม่ พระนามของพระพุทธรูปองค์นี้ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฒโน ปธ.9) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นผู้เลือกพระนามถวาย ทรงเป็นที่พอพระราชหฤทัยยิ่ง และท่านผู้เลือกถวาย (หมายถึงสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร) ก็ทรงมีพระชวญาณที่ประเสริฐ หลับตาเห็นนครเชียงใหม่ ด้วยพระญาณที่ถูกต้อง สมเด็จพระสังฆราชทั้ง 2 พระองค์ ทรงห่วงใยในหลวงัชกาลที่ 9 จึงได้จัดให้มีการหล่อพระพุทธรูปองค์นี้ถวาย ณ วัดบุพพาราม ถวายพระพรให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสถิตย์สถาพรคู่ชาติไทยไปตราบนานเท่านาน พระชนมายุยืนนาน มีการระบุดวงดาว ลักขณา ฯลฯ ตามแบบโบราณราชประเพณี เทิดพระเกียรติพระองค์ให้แผ่ไปไพศาล