บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ | เผยแพร่เมื่อ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๑
๓ พันชิ้นเลอค่า หายาก รำลึก ร.๙ สาวสองสะสม ๒๕ ปี ทุ่มใจเนรมิต “ห้องของพ่อ”
สาวสองสุดสวย เก็บสะสมของกว่า ๓ พันชิ้น เกี่ยวกับ ในหลวง ร.๙ มา ๒๕ ปี เนรมิต “ห้องของพ่อ” ขึ้นในบ้าน สุดประทับใจได้บัตรเชิญร่วมงานถวายพระเพลิงมาเก็บรักษาไว้ นับว่าหายากเพราะพิมพ์เพียง ๓,๐๐๐ ใบ เท่านั้น
“ไม่ว่าพ่อจะจากไปไกลเท่าไร นานแค่ไหน แต่พ่อก็ยังอยุ่ในใจลูกตลอดมา และตลอดไป ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกพ่อ … ลูกขอก้าวตามดังคำสอนพอเพียง เพียงพอ แต่ความรักที่มีให้พ่อจะไม่มีวันพอเพียง”
เฟิสท์ หรือ นายชญาน์นันท์ พรชัยวัฒนากร สาวสองวัย ๓๘ เจ้าของร้านส้มตำ เจ๊แพร ครกลั่นปฐพี ชื่อดังใน อ.เมือง จ.ชลบุรี เริ่มถ่ายทอดเรื่องราวในฐานะประชาชนคนไทยที่เกิดในยุคสมัยของรัชกาลที่ ๙ ที่มีความรักความผูกพันกับ ร.๙ พ่อหลวงของแผ่นดิน เหมือนกับคนไทยทั้งประเทศ ที่เริ่มจากเกือบทุกบ้านที่ต้องมีรูปในหลวง ร.๙ ประดับไว้บนฝาบ้านกันแทบทุกครัวเรือน
จากรูปที่มีทุกบ้าน เนรมิต “ห้องของพ่อ” จุของทรงคุณค่า หายากกว่า ๓ พันชิ้น
จุดเริ่มต้นการสะสมเก็บเรื่องราวเกี่ยวกับในหลวง ร.๙ นั้น เป็นแบบงูๆ ปลาๆ ไม่ได้จริงจังมากนัก ในตอนเธอเรียนอยู่ ม.๑ เริ่มจากรูปภาพในปฏิทินของพระองค์ท่านตามฝาบ้านมาแต่เด็ก เมื่อหมดปีก็เก็บไว้ และหากไปบ้านใคร ก็ขอปฏิทินหมดปีมาเก็บด้วย ต่อมาเริ่มเก็บธนบัตร และเงินเหรียญที่แปลกๆ เก็บมาเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่ามีการจัดทำขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึกในวาระใด เพราะแต่ก่อนครอบครัวเปิดปั๊มน้ำมัน มักจะเจอแบงก์หรือเงินเหรียญที่แปลกๆ เสมอ ก็เก็บสะสมมาเรื่อยๆ เป็นเวลาเกือบ ๒๓ ปี
จนกระทั่ง ในหลวง ร.๙ เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ ๑๓ ต.ค. ๒๕๕๙ จึงตั้งใจเก็บสะสมอย่างจริงจัง เพิ่มคอลเล็กชั่นทั้งกระปุกออมสินที่มีตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ รูปภาพจากโปสการ์ด หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ แผ่นพับวันงานพระเมรุมาศ ถึงขั้นเนรมิตห้องเปล่าๆ ของบ้านให้เป็นห้องแห่งความทรงจำที่เลอค่า เก็บของทุกอย่างกว่า ๓ พันชิ้น ของในหลวง ร.๙ ซึ่งแรงจูงใจเธอบอกกับทีมข่าวฯ ว่า

“ตั้งใจให้มีห้องหนึ่งไว้เก็บของต่างๆ ของพระองค์ เพราะอยากมีอะไรที่เป็นอนุสรณ์ให้เราได้คิดถึงท่าน เวลาเหนื่อย ท้อแท้ มองรูปพระองค์ท่าน ของต่างๆ เกี่ยวกับพระองค์ท่าน แล้วรู้สึกว่ามีกำลังใจ และอยากเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ให้ลูกหลาน รุ่นน้องได้เห็น ได้คิดถึงพระองค์ท่านแบบที่เรารู้สึก โดยส่วนตัวไม่เคยเจอพระองค์ท่าน แต่ใครๆ ก็รักพระองค์ท่าน ไม่รู้จะพูดอย่างไร พูดแล้วน้ำตาจะไหล ไม่ต้องมีใครสอนให้รักพระองค์ แต่คนไทยรู้สึกได้เองว่าพระองค์ท่านได้ทำอะไรไว้ให้คนไทยมากมาย” สาวสองผู้มีใจภักดิ์กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
๑ ใน ๓ พันชิ้น ของเลอค่าที่ได้มาเก็บรักษา แต่มองคราใดน้ำตาไหลทุกที
สิ่งของสะสมเกี่ยวกับในหลวง ร.๙ ทั้งหมดกว่า ๓ พันชิ้นนี้ มีทั้งซื้อหามาเอง บางทีแลกเปลี่ยนกันในกลุ่มปิด ที่ชื่อ “มือใหม่สะสมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน เหรียญ กษาปณ์ ธนบัตรที่ระลึก และสิ่งสะสม” อีกทั้งมีคนให้มา เพราะรู้ว่าเธอเก็บสะสม เมื่อสร้าง “ห้องของพ่อ” เป็นชั้นลอยของบ้าน เธอก็นำมาจัดวางเก็บไว้ในตู้อย่างสวยงาม ติดตามฝาผนังห้อง พร้อมจัดหมวดหมู่ เป็น ธนบัตร เหรียญ กระปุกออมสินที่มีตราสัญลักษณ์ของพระองค์ รูปภาพจากปฏิทิน โปสการ์ด หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ แผ่นพับที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
สิ่งที่เขาใช้หัวใจเก็บมา ๒๕ ปี เพื่อเทิดทูน ไม่ได้เก็บไว้เพื่ออวดใคร มีชิ้นที่ประทับใจเป็นพิเศษสุด คือ “บัตรเชิญร่วมงานถวายพระเพลิง” นับว่าหาได้ยาก เพราะมีเพียง ๓ พันใบ เท่านั้น ซึ่งเขาโชคดีที่ผู้ใหญ่ที่เคารพเห็นว่าทำห้องเพื่อเก็บของต่างๆ เกี่ยวกับ ร.๙ จึงให้บัตรเชิญมาเก็บรักษา แต่มองที่ไรมักน้ำตาคลอทุกที เพราะนึกถึงภาพบรรยากาศสุดเศร้าของคนไทยทั้งประเทศ ในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ส่วนชิ้นที่รักเป็นพิเศษ คือ “รูปหล่อในหลวง ทำจากปูนปลาสเตอร์ ที่ลงมือเองด้วยความรัก ตั้งแต่การหล่อและลงสี”

“การหล่อ การลงสี ไม่เคยทำมาก่อน มีอาจารย์มาสอนให้ ใช้เวลาหล่อ ๑ วัน แต่ใช้เวลารอแห้งประมาณ ๑ อาทิตย์ ต้องตากแดดจัดๆ จึงลงสีได้ ต้องลงสีดำ เป็นพื้นก่อน แล้วลงสีทองทับ เพื่อปรับให้พระเกศาสีดำๆ แซม การทำความสะอาดของทุกชิ้นต้องระมัดระวัง เพราะของบางชิ้นก็แตกได้ ทั้งห้องนี้จัดเอง วางเองทุกอย่าง ถ้าหายไปชิ้นหนึ่งก็จำได้ เหรียญ แบงก์ มีเป็นพันชิ้น เคยนับรูปภาพคร่าวๆ ก็เป็นพัน กระปุกออมสินก็เกือบๆ พัน” ชญาน์นันท์ กับความผูกพันในห้องบันทึกความทรงจำของในหลวง ร.๙

ขอเดินตามรอยพ่อสอน สุดอาวรณ์ พระองค์อยู่ “ห้องของพ่อ” แห่งนี้เสมอ
“วันที่ในหลวงสวรรคต ……” เขาเว้นจังหวะเล่า เหมือนมีอะไรจุกในคอ และเล่าต่อด้วยเสียงสั่นเครือ “ร้องไห้ รู้สึกเสียใจมาก” และตั้งใจเดินทางจากชลบุรีไปถวายสักการะพระบรมศพที่ กทม. รอคิวนาน ๔-๕ ชั่วโมง รู้สึกใจหวิวๆ ใจหาย แต่ก็ตื้นตันที่ได้มาส่งพระองค์ท่าน ส่วนวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ก็ไปวางดอกไม้จันทน์ที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมนำกับข้าวไปออกโรงทานถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน
เมื่อเอ่ยถามภาพแห่งความทรงจำ คือ ภาพที่พระองค์ท่านคล้องกล้อง มือถือแผนที่ เสด็จพระราชดำเนินไปทุกหนแห่งในถิ่นทุรกันดาร แสดงถึงความเพียร เขาจึงได้นำมายึดใช้ในชีวิต และยึดหลักพอเพียงแบบพระองค์ท่านจนวาระสุดท้าย
“สิ่งที่ยึดตามพระองค์ คือ ความเพียร ถ้าเราไม่มีความเพียร ทุกอย่างก็ไม่ประสบความสำเร็จ การเก็บสะสมของที่เกี่ยวกับพระองค์ท่าน ก็เพราะเทิดทูนในความดีของพระองค์ ไม่ว่าเรื่องการทำงาน ความอุตสาหะ ความเสียสละ ความประหยัดมัธยัสถ์ จะเดินตามคำสอนของพ่อ เพราะเชื่อว่าพระองค์ท่านยังอยู่กับเราในห้องของพ่อแห่งนี้”