บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา: www.happyplusmagazine.com
ผมรักในหลวงที่สุด
ตอนเด็กๆ สิ่งของที่คุณหลงใหลได้ปลื้มจนถึงขั้นเก็บสะสมคืออะไร ตุ๊กตาหมี … กล่องดนตรี … โมเดลซูเปอร์ฮีโร่ … ?
สำหรับน้องปัณณ์ ศรีอำไพ เด็กชายวัย ๘ ขวบ มีของรักของหวง คือ “ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” มากมายจนนับไม่ถ้วน ตั้งแต่ธงที่มีตราสัญลักษณ์ ปฏิทินตั้งโต๊ะ ปฏิทินแขวน หนังสือและซีดีพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระบรมฉายาลักษณ์ จากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ตราไปรษณียากร เหรียญที่ระลึก การ์ดเชิญในงานพระราชพิธีสำคัญ ฯลฯ
วันนี้ครอบครัวศรีอำไพ เปิดบ้านนำของรักของน้องปัณณ์มาให้ happy+ ได้ชม คุณพ่อถเกิงเดช และคุณแม่พจนา ศรีอำไพ บอกกับเราว่า สิ่งที่เห็นตรงหน้าเป็นเพียง ๒๐% เท่านั้น ยังมีอีกมากซึ่งไม่อาจยกมาให้ชมได้หมด เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด
“เริ่มตั้งแต่เขายังเดินไม่ได้ ไม่เคยเล่นของเล่นตามวัย อุ้มไปไหนๆ พอเห็นธง เห็นรูปในหลวง ก็จะชี้ขอ หลังจากได้แล้วจะยกมือไหว้ แล้วกลับบ้าน เอารูปมาหอม เวลางอแง ชี้รูปในหลวง น้องปัณณ์จะยิ้มทันที พอโตขึ้นมาหน่อย น้องปัณณ์เริ่มรู้ว่าในหลวงไม่ได้มีแค่ในปฏิทิน ไม่ได้มีแค่ตราสัญลักษณ์บนธง แต่มีในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร เพราะแม่กับพี่สาวจะเข้าร้านหนังสือบ่อย จะพาเขาไปด้วย เขาไม่ได้หยุดที่ชั้นหนังสือการ์ตูนหรือนิทาน แต่สิ่งที่หยุดเขา คือ หนังสือทุกเล่มที่มีรูปในหลวง”
ขณะที่น้องปัณณ์กำลังสนุกกับการอวดของแต่ละอย่างให้พวกเราได้ชม คุณพ่อนำรูปวาดในหลวงฝีมือของน้องมาให้ดู “คุณพ่อชอบวาดรูปผม ผมเลยหัดวาดรูปจากคุณพ่อ และหัดวาดรูปในหลวงมาตลอด” น้องปัณณ์พูดด้วยรอยยิ้ม รูปวาดในหลวงทุกรูปล้วนเป็นลิมิเต็ด เอดิชั่นทั้งนั้น วาดเสร็จจะให้คุณแม่หากรอบสวยๆ มาใส่ และนำไปถวายที่โรงพยาบาลศิริราช แต่ละรูปคือความตั้งใจที่สะท้อนออกมาจากความรักที่มีต่อในหลวง จากเด็กประถมปีที่ ๒ โรงเรียนจิตรลดา
“หลังจากน้องปัณณ์ออกรายการทีวี ก็มีคนจากทั่วประเทศส่งพระบรมฉายาลักษณ์มาให้ คุณลุงคุณป้าเจ้าของร้านกาแฟที่หัวหินก็ฝากแฟนคลับน้องปัณณ์ส่งต่อมาให้อีกที หนังสือทรงคุณค่าจากรองเสนาธิการทหารเรือ หนังสือหายากตราไปรษณียากรซึ่งมาไกลจากสงขลา เหรียญที่ตำรวจประจำพระราชสำนักซึ่งได้รับจากพระหัตถ์ในหลวงก็ให้มา เขียนจดหมายน้อยบอกให้น้องปัณณ์เก็บไว้แทนคุณลุง แม้กระทั่งสิ่งของอื่นๆ อย่างเสื้อหรือหมอนสกรีนว่าเรารักในหลวง สกรีนเป็นรูปน้องปัณณ์ บางครั้งยังมีไข่เค็มจากไชยาส่งเป็นพัสดุมา บางกล่องใหญ่ ไม่ลงชื่อคนส่ง แต่เป็นของที่มีค่ามาก ราคาแพง จนเรารู้สึกว่ามากเกินไป น้องปัณณ์จะจำของทุกชิ้นได้ ถ้ามีคนให้เขาและเหมือนกับของที่มีอยู่แล้ว เป็นขนาดเดียวกัน เขาจะไม่ขอรับ แต่ถ้ายังไม่มี เขาก็จะรับค่ะ”
ของทุกชิ้นที่เกี่ยวข้องกับในหลวง น้องปัณณ์รักและเก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุด เพราะคุณพ่อคุณแม่มักจะบอกกับลูกชายเสมอว่า ของเหล่านี้เป็นของหายาก มีราคา เป็นของที่เจ้าของรัก บางอย่างเราแทบจะไม่มีโอกาสได้เห็น แต่ก่อนที่จะสูญหายไป เจ้าของเขาคิดแล้วว่าจะมอบให้กับคนที่เหมาะสมและเห็นคุณค่าที่ควรเก็บรักษาต่อไป
เราถามต่อว่าทำไมน้องปัณณ์ถึงได้มีความรักที่ลึกซึ้งกับเรื่องของในหลวงขนาดนี้
“น้องปัณณ์เกิดวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๔๙ ซึ่งเป็นปีมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครองราชย์ครบรอบ ๖๐ ปี ก่อนที่น้องปัณณ์จะเกิด คุณแม่ได้รับมอบหมายให้ทำงานชิ้นหนึ่งเรื่องการบริหารธุรกิจที่เป็นธรรมและโปร่งใส (Good Corporate Governance) ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเรื่องนี้คืออะไร ก็สืบค้นข้อมูล ปรากฏว่าเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกับพระราชดำริเรื่อง “ความพอเพียง” ซึ่งจริงๆ เป็นเรื่องเดียวกัน ช่วงนั้นคุณแม่เองก็ซาบซึ้งกับพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์มาก อย่างช่วงใกล้คลอดน้องปัณณ์ก็ไม่ได้ไปร่วมแสดงความจงรักภักดีถึงที่ แต่ดูอยู่ที่บ้านก็นํ้าตาไหล”
ถามน้องปัณณ์ขณะที่ขะมักเขม้นกับการวาดรูปว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาด้วยรอยยิ้ม “ผมอยากเป็นผู้บัญชาการกองพลที่ ๑ รักษาพระองค์ เพื่อปกป้องพระเจ้าอยู่หัว” รักในหลวงแค่ไหน “ที่สุดเลยครับ” ทำไมถึงรัก “เพราะในหลวงท่านทรงงานหนักเพื่อประชาชน หรือคนในถิ่นทุรกันดาร เมื่อก่อนพระองค์ยังมีพระพลานามัยที่แข็งแรง แม้ตอนนี้พระวรกายจะไม่สมบูรณ์ แต่พระองค์ก็ยังคงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ประชาชนรักครับ”
ครั้งหนึ่งตอนที่ครอบครัวศรีอำไพไปมอบเงินให้กับมูลนิธิศิริราช พวกเขาได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ในหลวงและพระราชินี แม้จะไม่ได้ใกล้ชิด แต่เด็กชายปัณณ์ตะโกนออกไปสุดเสียงว่า “ทรงพระเจริญ พระพุทธเจ้าข้า ขอรับ” สมเด็จพระราชินีทรงหันมายิ้ม วินาทีนั้นน้องปัณณ์เป็นจุดสนใจของทุกคน และวันรุ่งขึ้นรูปของน้องปัณณ์ก็ปรากฏบนหนังสือพิมพ์
“คุณพ่อคุณแม่รู้สึกดีใจและภูมิใจค่ะ ที่ลูกๆ ไม่ว่าจะเป็นน้องแป้ง-พิมพจนา หรือน้องปัณณ์ มีความรักให้ในหลวง และสิ่งที่น้องปัณณ์แสดงออกมาก็เป็นแรงบันดาลใจให้คนหันกลับมาซาบซึ้งและระลึกถึงพระองค์ท่านอีกครั้ง พ่อแม่ก็แค่หนุนเขา ช่วยเขาให้เป็นคนดีของสังคม อนาคตข้างหน้าหลังจากย้ายบ้าน คุยกันไว้กับคุณพ่อว่าเราจะทำห้องสมุดชุมชนเล็กๆ และนำสิ่งของเหล่านี้จัดแสดงแบ่งปันให้คนเข้ามาชมพระราชกรณียกิจของในหลวงค่ะ”
ความรักของปัณณ์ ศรีอำไพ กลายเป็นความดีงามที่ตราตรึงใจทุกคน เขาบอกกับเราว่า “ผมขอขอบคุณทุกคนที่มอบของต่างๆ มาให้ผม จะเก็บรักษาไว้เพราะเป็นของมีค่า ผมมีความสุขที่ได้ทำให้ทุกคนหันกลับมารักในหลวง ผมจะสะสมสิ่งของเกี่ยวกับในหลวงต่อไป และจะวาดรูปพระองค์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้พบพระองค์ ผมอยากจะกราบที่พระบาทของในหลวงและบอกว่าผมรักพระองค์มากที่สุดครับ”
=========
อ้างอิง: www.happyplusmagazine.com