บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา: ข่าวสด | เผยแพร่เมื่อ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๙
เมื่อวันที่ ๑๘ ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง มีพสกนิกรเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงเพื่อถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันที่ ๓ โดยมีประชาชนสวมชุดดำเดินทางมาต่อแถวเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดให้ประชาชนเข้ามาภายในศาลาสหทัยสมาคม รอบละประมาณ ๗๐ คน ขณะที่บริเวณหน้าศาลาสหทัยสมาคม สำนักพระราชวังได้กางเต็นท์ เพื่อให้ประชาชนมีที่หลบแดดและฝน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายสุพัฒน์ สุพรรณสมพร อายุ ๖๔ ปี ชาวสุพรรณบุรี อดีตพนักงานบริษัทเอกชน ที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พร้อมนำภาพพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ที่ตัวเองเก็บสะสมไว้กว่า ๓๐ ปี แล้วนำมาเรียงต่อกันจนมีความยาวราว ๕๔ กิโลเมตร โดยใน
วันนี้ตัดทอนให้เหลือแค่ ๓๐-๔๐ เมตร ติดตัวมาด้วย ซึ่งได้รับความสนใจและคำชื่นชมจากประชาชนที่มาร่วมถวายสักการะจำนวนมาก

นายสุพัฒน์เปิดเผยว่า เดินทางมาจากบ้านย่านบางโพ กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น. โดยตั้งใจนำภาพพระราชกรณียกิจของพระองค์ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมถ่ายภาพกับในหลวง และตั้งใจว่าในปี ๒๕๖๐ อยากมอบให้กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นำไปจัดแสดงหารายได้สร้างอาคารทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือประชาชน ถวายพ่อหลวงของแผ่นดินต่อไป แทนที่จะเก็บสะสมไว้อย่างเดียว ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไร

นายสุพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. รู้สึกจิตใจมันลุ่มร้อนไปหมด จนกระทั่งใด้ยินข่าวร้ายจากปากท่านนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาได้รับข่าวลือที่เผยแพร่ทางสังคมออนไลน์มากมาย แต่ก็ไม่เชื่อ รู้สึกเสียใจไม่อยากได้ยิน แต่ก็ต้องได้ยิน ถึงตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ เพราะส่วนตัวคิดว่าทุกวันนี้ข้าวที่กินก็เป็นข้าวพระราชทาน น้ำที่ดื่มก็เป็นน้ำพระราชทาน แผ่นดินที่เหยียบอยู่ก็ถือว่าเป็นของพ่อ สำนึกในทุกอย่างที่ทรงทำเพื่อแผ่นดินไทย ระหว่างเก็บสะสมภาพก็ได้เห็นพระองค์ท่านในทุกพระอริยาบถ รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างมาก ตั้งใจว่าเป็นคนดีของสังคมไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙

ด้านนายณรงค์ รุ่งรวีวงศ์ หรือ รุ่ง สุริยา นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง กล่าวว่า เดินทางมาตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงครึ่ง จึงเข้ามาถึงภายในศาลาสหทัยสมาคม ร่วมกับทีมงานรายการเที่ยวตามพ่อ โดยมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งออกอากาศมาสามเดือนแล้ว ส่วนตัวเมื่อ ๑๘ ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสนำเพลงพระราชนิพนธ์เพลงชะตาชีวิตมาขับร้องในโปรเจค ๕ ธันวาคมของสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย แต่ไม่เคยได้เฝ้าฯ รับเสด็จมาก่อน จึงรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง โดยจากนี้ก็จะสานต่อโครงการอัลบั้มพิเศษ ร่วมกับครูพร พนาไพร ครูเพลงดังซึ่งแต่งเพลงไว้ ๑๐-๑๓ เพลง เพื่อเทิดพระเกียรติโดยเฉพาะ เพื่อให้คนที่ฟังรับรู้ได้ถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์
รุ่ง สุริยา กล่าวด้วยว่า แม้ว่าท่านจะจากไป แต่คำสอนของพระองค์ยังคงอยู่ คนไทยยังต้องดำเนินชีวิตต่อไป โดยเฉพาะแบบอย่างด้านดนตรีที่พระองค์ทรงพยายามฝึกฝน จนเกิดความชำนาญขึ้น จนทำให้เกิดผลสำเร็จ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนด้านดนตรี ในส่วนของคนไทยทุกคน พระองค์ได้วางรากฐานไว้ให้ทั้งหมดแล้ว ทั้งความพอเพียงหรือสิ่งอื่น นี่จะเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยดำรงชีวิตต่อไปได้
