บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา: TNEWS | เผยแพร่เมื่อ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๐
ข่าว: กฤษฎาพงษ์ แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ตราด
สะสมรูปในหลวง ร.๙-พระราชินี อายุกว่า ๓๐-๕๐ ปี เผยทั้งน้ำตา คือความทรงจำสิ่งเดียวที่มีค่า อยากให้เด็กรุ่นใหม่ซึมซับในหลวงทำเพื่อลูกหลาน
ที่ร้านกาแฟประ-พา-คาน ริมถนนแสนตุ้ง-บางกระดาน ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด นายจงประเสริฐ เตียงเกตุ และนางสาวสภารัตน์ ฟองมาศ สองสามีภรรยา เจ้าของธุรกิจร้านกาแฟและกิจการคาร์แคร์ ที่อาศัยเวลาว่างเก็บสะสมพระบรมฉายาลักษณ์และพระบรมสาทิสลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมัยเมื่อ ๓๐-๕๐ ปีที่แล้ว มากกว่า ๑๐๐ รูป ตั้งแต่รูป ๑ นิ้ว ไปจนถึงรูปขนาดใหญ่ ๑๘ นิ้ว พร้อมทั้งนำพระบรมฉายาลักษณ์และพระบรมสาทิสลักษณ์ บางส่วนมาแขวนภายในร้าน เพื่อแสดงความจงรักภักดิ์ดีต่อทั้งสองพระองค์
นายจงประเสริฐ เตียงเกตุ กล่าวว่า บ้านเกิดตัวเองอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี และเห็นพ่อตัวเองสะสมของเก่าของโบราณจำนวนมาก ตั้งแต่เล็กจนโต และซึมซับการเก็บของเก่าจากพ่อมา เมื่อแต่งงานมีครอบครัว ย้ายถิ่นฐานมาทำงานที่บ้านของภรรยาที่จังหวัดตราดเมื่อ ๖ ปีที่แล้ว และได้เริ่มสะสมภาพในหลวงและราชินี ตามตลาดนัด ตามร้านค้าในจังหวัดตราด ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน มีรูปกว่า ๑๐๐ รูปแล้ว บางรูปมีอายุนานกว่า ๖๐ ปี ก็มี และรูปทุกรูปจะมีกรอบไม้สมัยเมื่อ ๓๐-๕๐ ปี และจะพยายามรักษาความสมบูรณ์ไว้ให้ได้มากที่สุด หากกรอบรูปชิ้นไหนพังจนไม่สามารถซ่อมได้ ก็จะหาซื้อกรอบรูปที่เก่าๆ มาใส่เหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีลูกค้าขอซื้อ ขอแบ่ง แต่ไม่ให้และไม่ขายเด็ดขาด เพราะรูปในหลวงสมัยเมื่อ ๓๐-๕๐ ปีที่แล้ว เริ่มหายากมาก
ด้านนางสาวสภารัตน์ ฟองมาศ กล่าวว่า เมื่อก่อนตนเองไม่ได้ชอบสะสมรูปในหลวง แต่มีเพียง ๑-๒ รูป เท่านั้น เป็นที่ยึดเหนียวจิตใจ เป็นสิ่งที่รักและเคารพอยู่แล้ว แต่ด้วยสามีมีความชอบสะสมรูปเก่าๆ ของในหลวง ก็เริ่มซึมซับและสนับสนุนสามีเต็มที่ เหมือนเราได้เก็บสะสมไปด้วย ซึ่งเมื่อก่อนเราจะเก็บสะสมแค่ปฎิทินรูปในหลวงเหมือนคนทั่วไป แต่มาตอนนี้ตัวเองและสามีสะสมพระบรมฉายาลักษณ์และพระบรมสาทิสลักษณ์ อย่างจริงจัง
“และยิ่งเมื่อเราเห็นภาพเก่าๆ เราก็จะรู้สึกดีที่สุด และบอกคำเดียวว่ารักท่านมาก เพราะตั้งแต่เราเกิดมาจนโตก็เห็นท่านทรงงานเพื่อพวกเรามาโดยตลอด และอยากให้เด็กรุ่นใหม่ๆ ได้เห็นสิ่งดีๆ ที่ถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้รับรู้สิ่งที่ท่านทำมา เพราะเพื่อลูกหลานของท่านเอง ซึ่งมันมีค่ามากสำหรับคนรุ่นเก่า และหวังว่าเด็กรุ่นใหม่จะเห็นค่าบ้าง และรักท่านเหมือนที่พวกเรารักท่าน” นางสาวสภารัตน์กล่าวทั้งน้ำตา
นอกจากนี้ นายจงประเสริฐ เตียงเกตุ ยังนำพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงผนวช ที่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ขนาด ๑ นิ้ว โดยด้านหลังภาพมีตราประทับของวัดบวรนิเวศวิหาร มาโชว์ให้สื่อมวลชนได้ดู หลังซื้อภาพมาในราคารูปละ ๑,๒๐๐ บาท จำนวน ๕ รูป เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว