บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา: adaybulletin.com | เผยแพร่เมื่อ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๐
คุยกับ ‘บัว’ – กรรณิการ์ สุนทรญาณกิจ นักเก็บสะสมแสตมป์ในหลวง รัชกาลที่ ๙
แสตมป์พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ บนซองจดหมาย เป็นสิ่งที่เราเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ จนชินตา บนพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กๆ นั้น อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ตั้งแต่แสตมป์ดวงแรก กระทั่งดวงสุดท้ายแห่งรัชกาลที่ ๙ เพราะต้องนำขึ้นเสนอรูปแบบต่อสำนักพระราชวัง ก่อนจะทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต และจะต้องผ่านการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรูปแบบและจำนวนที่จะผลิตจากพระองค์เอง ดังนั้น ข้อมูลสำคัญ การออกแบบ สีที่ใช้ ทุกอย่างจะต้องละเอียดและชัดเจน ราวกับว่าจะบันทึกเรื่องราวในช่วงนั้นให้ได้มากที่สุด
สิ่งนี้คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักสะสมแสตมป์ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เฝ้าติดตามและค้นหาจนครบชุด รวมทั้ง ‘บัว’ – กรรณิการ์ สุนทรญาณกิจ
ตอนเด็กๆ เราเห็นแสตมป์ในหลวง ร.๙ เรารู้แค่ว่าไว้ติดซองจดหมาย แต่พอโตขึ้น เรารู้ได้ทันทีว่าพระองค์มีค่าและยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก แสตมป์พระองค์จึงเป็นสิ่งที่เตือนใจ และทำให้เรารู้สึกเสมอว่า พระองค์อยู่ใกล้ๆ ไม่ได้จากไปไหนเลย
01 : IN MY EYES
“เราให้ความสำคัญกับแสตมป์มาก เพราะเป็นของชิ้นเล็กจิ๋วที่มีความบอบบางแต่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าสนใจ ทุกครั้งที่เราหยิบแสตมป์จึงต้องใช้ที่คีบ เพราะเหงื่อจากนิ้วมือของเราอาจทำให้แสตมป์เป็นสนิม และยังทำให้ฟันแสตมป์เสียหายได้ และที่สำคัญการดูแสตมป์ให้ครบทุกรายละเอียดจะต้องใช้ร่วมกับแว่นขยาย แม้ว่าสายตาของเราจะดีแค่ไหน แต่ก็ยังมีรายละเอียดเล็กๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายอยู่ในพื้นที่เล็กๆ นั้น โดยที่หากมองผ่านๆ ก็อาจไม่เห็น นี่คือเสน่ห์ของแสตมป์ที่ทำให้เราหลงใหล แสตมป์พระรูปในหลวง รัชกาลที่ ๙ แต่ละปีก็เช่นกัน มีรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าศึกษามากมาย”
02 : FIRST COLLECTION
“ในกรอบใหญ่นี้ ประกอบไปด้วยแสตมป์ทั่วไป ชุดพระรูปรัชกาลที่ ๙ ชุดที่ ๑-๑๐ มารวมกับแสตมป์ที่ระลึก พร้อมลงรายละเอียดที่มา พระราชประวัติศาสตร์ในยุคนั้นไว้ทั้งหมด อย่างแสตมป์พระรูปชุดแรก จนถึงชุดสุดท้าย ชุดที่ ๑๐ แสตมป์ชุดตอนที่พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ ชุดราชาภิเษกสมรส พร้อมพระราชประวัติในช่วงที่พระองค์พบกับพระราชินีครั้งแรก โดยแสตมป์แต่ละชิ้นจะแบ่งใส่ซองกันชื้น เย็บมุมติดกับกระดาษอาเช่ด้วยด้ายสีต่างๆ แทนการใช้กาว เพราะสารเคมีในกาวจะทำสีของแสตมป์เป็นสนิม ก่อนใส่กรอบเล็กๆ ทำเป็นโปสต์การ์ด จัดองค์ประกอบด้วยโทนสีของแสตมป์ พร้อมเขียนเพลงความฝันอันสูงสุดไว้ แล้วใส่กรอบขนาดใหญ่ที่ด้านหลังติดกระดาษกันชื้นอีกชั้น ซึ่งเราใช้เวลารวบรวมและทำงานชิ้นนี้ถึง ๓ ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๔”
03 : FISRT STAMP
แสตมป์ที่ระลึกชุดแรกในรัชสมัยของพระองค์ เป็นแสตมป์เพื่อฉลองครบรอบพระชนมายุและฉลองราชนิติภาวะในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ เป็นแสตมป์ที่สวยมาก ซึ่งเป็นแสตมป์แรกของพระองค์ ตอนนั้นยังระบุบนหน้าแสตมป์ว่าไทย-SIAM อยู่เลย เรามองว่าแสตมป์ใบนี้น้อยแต่คลาสสิก ยิ่งเปรียบกับแสตมป์พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ รุ่นอื่นๆ พระพักตร์ตรงในอดีตแบบนี้คือความโบราณที่ทันสมัย ยิ่งกาลเวลาผ่านไป ยิ่งทันสมัยและมีคุณค่า อีกอย่างในอนาคตเราอาจจะไม่ได้เขียนจดหมายติดแสตมป์กันแล้ว แสตมป์ชุดเก่าแก่นี้จะเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ เพื่อส่งต่อให้ลูกหลานของเราให้ได้เรียนรู้ถึงเสน่ห์ของการเขียนจดหมาย ติดแสตมป์ และรอคอยการตอบกลับ พร้อมทั้งได้เข้าใจคนรุ่นเราว่า เพราะเหตุใดคนไทยถึงรักในหลวง รัชกาลที่ ๙ มากขนาดนี้”
04 : YOURS FAITHFULLY
“เรามองว่า ถึงแม้การเขียนจดหมายกำลังจะหมดยุคไป แต่สิ่งนี้กำลังจะมีค่า หากเราไม่เก็บแล้วใครจะเก็บ ยิ่งถ้าเราไม่ทำรายละเอียดเอาไว้ว่าปีไหน ราคาเท่าไหร่ เรื่องราวเป็นยังไง ไม่เล่าให้ใครฟัง แล้วใครจะรู้ว่า ในยุคหนึ่งเคยมีแสตมป์ชิ้นเล็กๆ แค่นี้ในยุคของพระองค์ เราเชื่อว่า ในอนาคตแสตมป์ของพระองค์จะมีคุณค่ามาก ไม่ใช่เรื่องมูลค่าเงินตรา แต่เป็นมูลค่าทางจิตใจที่คอยย้ำเตือนให้เราต้องทำความดี ดั่งคำสอนของพระองค์ และยิ่งทำให้เราเห็นว่า พระองค์ทรงเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ สามารถหยุดน้ำ หยุดฟ้า หยุดคนทะเลาะกันได้ ขนาดนี้ เราเองก็เป็นหนึ่งคนที่สามารถทำสิ่งดีให้เกิดขึ้นในสังคมได้เช่นกัน โดยยกพระองค์เป็นต้นแบบแห่งความดี”
05 : NEXT COLLECTION
“เซตนี้จะเป็นงานชิ้นต่อไป เรานำแสตมป์ที่ชอบมาใส่กรอบเล็กๆ จัดองค์ประกอบเล็กๆ ก่อนที่จะนำไปยึดติดกับกรอบเฟรมต่อไป ต้องค่อยๆ ทำไปทีละอัน ใส่กรอบรูปที่ขนาดแตกต่างกัน สีต่างกันแต่เข้ากันกับเฉดของแสตมป์ที่เราชอบและเลือกมาแล้ว หรือแสตมป์ชุดฉลองราชนิติภาวะ ที่เราใส่กรอบใส เย็บติดลงผ้าเนื้อนุ่ม ขึงด้วยสะดึง ด้วยรูปแบบการนำเสนอแสตมป์แต่ละชิ้น นอกจากทำให้เกิดความสวยงามแล้ว ยังทำให้เราถึงเรื่องราวต่างๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย”
06 : THE LAST STAMP
“มาถึงแสตมป์พระรูปชุดที่ ๑๐ ซึ่งเป็นแสตมป์ใช้งานทั่วไปชุดสุดท้ายในรัชกาลที่ ๙ แสตมป์ชุดนี้มีหลายเฉดสีมาก เดิมเรามีเฉดสีนี้ วันหนึ่งเราไปเจอกรอบรูปไซซ์เล็กอันนี้ ก็คิดเลยว่า มันเป็นเฉดเดียวกันกับแสตมป์พระรูปชิ้นนี้ เราจึงนำแสตมป์มาเย็บติดเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือประดับดอกไม้และกระดาษที่เราเก็บสะสมมา ก่อนใส่กรอบ แล้วรอเวลาที่จะนำไปรวมเป็นงานชิ้นใหญ่อีกชุด และตั้งแต่ที่เราเก็บแสตมป์ เลือกเฉดสี เฝ้ารอความบังเอิญการเจอกรอบรูปสวยๆ ที่เข้ากัน ระยะเวลาทุกอย่าง มันคือ ความรื่นรมย์ในจิตใจ โดยมีพระองค์อยู่ในงานของเราเสมอ เราเห็นพระองค์ในทุกๆ วัน และทุกครั้งที่รวบแสตมป์พระองค์มารวมกัน เหมือนเรารวบเวลาของพระองค์ที่ทรงงานตลอด ๗๐ ปี ตั้งแต่ทรงพระเยาวน์ จนถึงวันก่อนที่พระองค์เสด็จสวรรคต เราเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของพระพักตร์ ยิ่งทำให้เรารู้ว่าพระองค์ทรงงานหนักแค่ไหน แสตมป์ของพระองค์จึงเปรียบแทนพระองค์ ให้เราใช้ชีวิตอย่างดีมีคุณค่าต่อไป”