บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา: MGR Online | เผยแพร่เมื่อ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๐
เพชรบูรณ์ – ไฟไหม้ห้องแถวย่านเศรษฐกิจกลางเมืองมะขามหวาน เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถฉีดน้ำสกัดกว่า ๒ ชม. ถึงเอาอยู่ แต่ตึกวอด ๗ หลังรวด แต่พบเรื่องสุดอัศจรรย์หลังเพลิงสงบ คุณยายหนึ่งในผู้ประสบภัยรีบค้นทรัพย์สิน เจอพระบรมรูป “ในหลวง ร.๙” ไร้รอยไหม้ ทำคนฮือฮาขอถ่ายภาพกันทั่ว
วันนี้ (๒๖ มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องแถวที่สร้างด้วยไม้ ริมถนนพระพุทธบาท ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจกลางเมืองเพชรบูรณ์ เมื่อช่วงเที่ยงเศษที่ผ่านมา
โดยเพลิงได้ลุกติดอาคารห้องแถวไม้เก่า ร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเจ้าของไม่อยู่ภายในบ้านพัก จากนั้นได้ลุกลามไหม้ติดไปยังห้องแถวข้างเคียง และบ้านพักด้านหลังห้องแถว ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณข้างเคียง โดยเฉพาะร้านค้าจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามจากอาคารไม้ที่เพลิงกำลังลุกไหม้ ต่างต้องนำสายยางต่อน้ำประปามาฉีดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนจนเพลิงลุกติด
นอกจากนี้ ชาวตลาดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ต่างพากันตื่นตระหนก เนื่องจากช่วงเกิดเพลิงไหม้ได้มีกลุ่มควันดำขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นเหนือท้องฟ้าจนเห็นกันทั่วทั้งเมือง
ต่อมาเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมอาสาสมัครกู้ภัยและรถดับเพลิงทั้งจากเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ และรถฉีดน้ำจากกองพลทหารที่ ๑ รวมทั้งรถน้ำองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ และองค์กรปกคครองส่วนท้องถิ่นข้างเคียงจำนวนกว่า ๑๕ คัน ได้ระดมกำลังกันช่วยฉีดน้ำเพื่อเร่งสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้เพื่อไม่ให้ลุกลามไปติดอาคารและตึกข้างเคียง นอกจากนี้ยังมีกำลังทหารจาก ม.พัน.๒๖ กองพลทหารม้าที่ ๑ ถูกระดมเข้ามาช่วยสนับสนุนการฉีดน้ำสกัดเพลิงดังกล่าว
ต่อมา นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และนายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์, พ.อ.ถนัดพล โกศัยเสวี รองผบ.พล.ม.๑ พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ รวมทั้งนายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ อดีตนายกเทศมนตรีฯ ได้เร่งเดินทางมาช่วยอำนวยการดับเพลิงในจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ ๒ ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์วัสดุที่ยังลุกติดเพลิงอย่างประปรายในจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งเบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต แต่มีรายงานความเสียหายมีอาคารห้องแถวไม้เก่าจำนวน ๕ ห้อง และบ้านพักอีก ๒ หลังที่ถูกเพิงเผาวอด ส่วนสาเหตุล่าสุดอยู่ระหว่างการสอบสวนของทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์
รานงานข่าวแจ้งว่า หลังเพลิงสงบ นางแก่ ศักดิ์เศรณี อายุ ๖๗ ปี พยายามเข้าไปสำรวจทรัพย์สินที่ถูกเพลิงเผาจนวอดไปกับบ้านพัก ซึ่งพบ “สมุดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ ๙” มีร่องรอยถูกเพลิงเผาไหม้เพียงส่วนขอบเท่านั้น แต่พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะทรงงาน กลับไม่มีร่องรอยถูกเพลิงไหม้
นางแก่จึงเก็บสมุดภาพฯ ออกมา กระทั่งชาวบ้านที่พบเห็นต่างพากันแตกตื่นฮือฮาด้วยความอัศจรรย์ใจ จากนั้นไม่เพียงขอชมสมุดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เท่านั้น แต่ยังพากันรุมใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายบันทึกภาพและวิดีโอเก็บไว้ เพื่อชื่นชมพระบารมีในหลวง รัชกาลที่ ๙
นางแก่กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุไม่ได้อยู่ภายในบ้านพัก มีเพียงมารดาอายุ ๑๐๒ ปี และพี่สาวอายุ ๗๒ ปี หลังเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านมาช่วยอุ้มมารดาออกจากบ้านพัก ส่วนทรัพย์สินไม่ได้อะไรติดตัวออกมาทั้งสิ้น