บทความนี้เป็นบทความที่คัดลอกมา
ที่มา: ข่าวสดพระเครื่อง | เผยแพร่เมื่อ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
วัตถุมงคลฉลอง ๑๐๐ ปี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ตอนที่ ๑
ธรรมเนียมหนึ่งของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ คือ การสถาปนาพระอารามประจำรัชกาล เพื่อฉลองพระราชศรัทธาและถือเป็นการอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๕ แห่งพระราชจักรีวงศ์ ในปีพุทธศักราช ๒๔๑๑ ในปีถัดมา ทรงมีพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงธรรมเนียมปฏิบัติอันนั้น จึงทรงพระกรุณาให้สถาปนาพระอารามประจำรัชกาลของพระองค์ขึ้น ที่ฝั่งตะวันออกของคลองหลอด คือ “วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม” พระอารามหลวง ชั้นเอกชนิด “ราชวรมหาวิหาร”
ทั้งนี้ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นวัดประจำรัชกาล โดยมีพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นณรงคหริรักษ์ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ และเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (ม.ร.ว.ปุ้ม มาลากุล) เป็นผู้อำนวยการก่อสร้าง
วัดแห่งนี้มีลักษณะผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป คือ ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบตกแต่งอย่างตะวันตก
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม” หมายถึง วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง และมีมหาสีมาอันเป็นเสาศิลาจำหลัก ยอดเป็นรูปเสมาธรรมจักร ๘ เสา ตั้งเป็นสีมาที่กำแพง ๘ ทิศ “ราชบพิธ” หมายถึง พระอารามที่พระเจ้าแผ่นดินสร้าง “สถิตมหาสีมาราม” หมายถึง พระอารามซึ่งมีมหาเสมาหรือเสมาใหญ่
เอกลักษณ์ของวัดราชบพิธ คือ การมีระเบียงคดเป็นวงกลม ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน การใช้กระเบื้องเบญจรงค์ประดับภายนอกศาสนสถานภายในวัด มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
ที่สำคัญที่สุด คือ ภายในพระอุโบสถทรงไทยประเพณีนั้น ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมโกธิก เลียนแบบห้องในพระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส ประดิษฐานพระพุทธอังคีรส เป็นพระประธานปางสมาธิหุ้มด้วยทองคำหนัก ๑๘๐ บาท ซึ่งเคยเป็นทองคำแต่งพระองค์เมื่อรัชกาลที่ ๕ ทรงพระเยาว์
ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๒ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม มีอายุกาลครบ ๑๐๐ ปี นับแต่ได้มีการสถาปนา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๒ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
วาระอันเป็นมงคลยิ่ง วัดราชบพิธฯ จัดงานฉลองเป็นพิธีใหญ่ พร้อมสร้างวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกตามประเพณี ถูกเรียกขานจากบรรดาเซียนพระนักสะสมนิยมพระเครื่องว่า “วัตถุมงคลฉลอง ๑๐๐ ปี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม”
วัตถุมงคลฉลอง ๑๐๐ ปี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประกอบด้วย
๑. พระพุทธรูปอังคีรส จำลองขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว
สร้างด้วยโลหะผสมทองคำ จำลองจากพระพุทธอังคีรส พระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ จัดสร้างจำนวน ๕๑๓ องค์ องค์พระมีขนาดความสูง ๑๘ นิ้ว ฐานองค์พระกว้าง ๑๓ นิ้ว ออกแบบปั้นแม่พิมพ์โดย นายช่างเกษม มงคลเจริญ ฐานด้านหลังประดิษฐาน “พระปรมาภิไธยย่อ จปร” และมีอักษรไทยจารึกว่า “ครบรอบร้อยปีวัดราชบพิธฯ”
๒. พระพุทธรูปบูชาศิลปะไทยประยุกต์ ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ผสมศิลปะอินเดียสมัยคุปตะ จำลองจากพระพุทธรูปหลวงพ่อดำ แห่งมหาวิทยาลัยนาลันทา ประเทศอินเดีย จัดสร้างจำนวน ๕,๕๒๖ องค์ ด้านหลังพระพุทธรูปบริเวณฐานองค์พระมีพระปรมาภิไธยย่อ “จปร” ประดิษฐานไว้
๓. พระกริ่งจุฬาลงกรณ์
พระกริ่งรุ่นนี้ถวายพระนามเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ผู้ทรงสถาปนาวัดราชบพิธฯ โดยพระกริ่งจำลองมาจากพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ศิลปะสมัยคุปตะ ฐานด้านหลังพระกริ่งประดิษฐานพระปรมาภิไธยย่อ “จปร” ใต้ฐานมีการบรรจุเม็ดกริ่ง แล้วปิดด้วยแผ่นวงกลมตราวัดราชบพิธฯ เป็นรูปตราพระเกี้ยว ประดิษฐานบนพานแว่นฟ้า ล้อมด้วยฉัตรเครื่องสูง ๕ ชั้น ๒ ด้าน จัดสร้างด้วยเนื้อทองคำ จำนวนเพียง ๑,๐๐๐ องค์ และนวโลหะ จำนวน ๕,๐๐๐ องค์เท่านั้น